ทำไมนักลงทุนถึงขาดความเชื่อมั่นใน Grab? เมื่อเห็นงบการเงินหลัง SPAC เข้าตลาดหุ้นเมกา | Techsauce

ทำไมนักลงทุนถึงขาดความเชื่อมั่นใน Grab? เมื่อเห็นงบการเงินหลัง SPAC เข้าตลาดหุ้นเมกา

หุ้น Grab Holding ร่วงลง 37% เมื่อวานนี้ หลังจากบริษัทรายงานการขาดทุนมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ทำให้มูลค่าตลาดลดลง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ประกาศควบรวมกิจการกับบริษัท SPAC (Special Purpose Acquisition Company) อย่าง Altimeter Growth Corp. ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สำหรับ Super App ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่เรียกรถ สั่งอาหาร ซื้อของ จองที่พัก ตลอดจนบริการทางการเงินอย่าง Grab นับตั้งแต่เปิดตัวมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 63% และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ทำผลงานแย่ที่สุดโดยดัชนีหุ้น Nasdaq

หุ้น Grab Holding ร่วงลง 37% เมื่อวานนี้ หลังจากบริษัทรายงานการขาดทุนมากขึ้นในไตรมาสที่ 4 ทำให้มูลค่าตลาดลดลง 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่ประกาศควบรวมกิจการกับบริษัท SPAC (Special Purpose Acquisition Company) อย่าง Altimeter Growth Corp. ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สำหรับ Super App ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่เรียกรถ สั่งอาหาร ซื้อของ จองที่พัก ตลอดจนบริการทางการเงินอย่าง Grab นับตั้งแต่เปิดตัวมาราคาหุ้นปรับตัวลดลงถึง 63% และถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่ทำผลงานแย่ที่สุดโดยดัชนีหุ้น Nasdaq

ทำไมนักลงทุนถึงขาดความเชื่อมั่นใน Grab ?

การระบาดของโควิดได้ส่งผลต่อบริการเรียกรถ ดังนั้น Grab จึงได้ขยับขยายธุรกิจจัดส่งอาหารเพื่อเพิ่มยอดผู้ใช้งาน แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการใช้จ่ายของลูกค้าบนแพลตฟอร์ม Grab เพิ่มสูงขึ้น แต่การเติบโตนั้นก็ยังไม่ได้ทำกำไรให้กับบริษัท เพราะรายรับจากบริการเดลิเวอรี่ในไตรมาสที่แล้วทำได้เพียง 1 ล้านดอลลาร์เท่านั้น

Grab มีผลขาดทุนสุทธิแตะ 1.06 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 สูญเสียเพิ่มขึ้นถึงเกือบสองเท่า และเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับการประมาณการณ์จากนักวิเคราะห์ไว้ที่ 645 ล้านดอลลาร์ เป็นผลจากต้นทุนดอกเบี้ยที่ไม่ใช่เงินสดและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้รายได้ลดลง 44% อยู่ที่ 122 ล้านดอลลาร์ 

จำนวนรายรับรายไตรมาสของ Grab มีความผันผวนอย่างมาก ทั้งนี้เป็นผลจากการทุ่มเงินไปเพื่อดึงดูดผู้ใช้และผู้ขับขี่ 

โดยในไตรมาสนี้ทุ่มงบประมาณ 443.3 ล้านดอลลาร์เพื่อกระตุ้นยอดเดลิเวอรี่ ถือเป็นจำนวนที่เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากปีก่อนหน้า จากผลการดำเนินงานของ Grab ที่ได้มีการเปิดเผยออกมา ทำให้นักลงทุนได้เห็นรายละเอียดและที่มาที่ไปของงบการเงิน จึงส่งผลให้นักลงทุนพากันขายหุ้น Grab ทิ้งเช่นเดียวกับอีกหลายบริษัทที่ยังไม่ได้ทำกำไร 

ทั้งนี้ Grab เริ่มขาดทุนตั้งแต่ช่วงก่อตั้งและยังไม่สามารถพิสูจน์ว่าสามารถทำกำไรได้ และด้วยการเข้ามาของโควิดก็ยิ่งส่งผลกระทบให้การใช้งานบริการเรียกรถและเดลิเวอรี่มียอดการใช้งานลดลง และเมื่อปีที่แล้ว Grab ขาดทุนเพิ่มขึ้นเป็น 3.4 พันล้านดอลลาร์ จาก 2.6 พันล้านดอลลาร์ในปีก่อนหน้า โดยมียอดรวมของการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม (Gross Merchandise Value: GMV) มูลค่ารวม 1.61 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับที่วางไว้ประมาณ1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายจากคู่แข่งอย่าง Sea Ltd. บริษัทอินเทอร์เน็ตที่นับว่าเป็นเจ้าใหญ่ที่สุดของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Gojek ธุรกิจเรียกรถจากอินโดนีเซียที่ควบรวมกิจการกับ PT Tokopedia จนเกิดเป็น GoTo ที่ในปีนี้กำลังวางแผนเพื่อขายหุ้น IPO ในอินโดนีเซียรวมถึงอเมริกา

อ้างอิง Bloomberg (1), (2)

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...

Responsive image

คนไทยไปญี่ปุ่น เตรียมสแกนจ่ายได้ ผ่านระบบ QR Code คาดเริ่มเมษาปีหน้า

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มพูดคุยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเปิดใช้งานบริการชำระเงินผ่าน QR Code ร่วมกัน ช่วยให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสะดวกสบาย ไ...

Responsive image

Jitta ก้าวสู่ปีที่ 12 เดินหน้าแก้วิกฤตการเงิน หนุนคนไทยออมและลงทุนอัตโนมัติ

Jitta เข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า...