ทำไมต้องให้ความสำคัญกับงานด้านไอทีในยุคปัจจุบัน
ปัจจุบันโลกของเราอยู่ในยุคโลกาภิวัตน์ที่เทคโนโลยีเฟื่องฟูอย่างไร้ขีดจำกัดทำให้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น รวมถึงในภาคอุตสาหกรรม และธุรกิจ เนื่องจากในปัจจุบันมีการเติบโต และคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตลอดเวลา ตัวอย่างเช่น
ที่ได้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนเชิงธุรกิจทำให้โครงสร้างพื้นฐานไอทีของหลาย ๆ องค์กรเติบโตไปด้วยจึงทำให้เกิดความต้องการบุคลากรทางไอที หรือ “Tech Talent” ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับ และพัฒนาส่วนนี้ไปพร้อมกับการเติบโตขององค์กร
Tech Talent คือ คนหรือกลุ่มคนที่มีความเชี่ยวชาญ และทักษะทางเทคโนโลยีในการสร้าง และพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการทางดิจิทัล ซึ่งมีความสามารถที่จะทำงานกับเทคโนโลยี และเครื่องมือต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับด้านนวัตกรรมดิจิทัลได้เป็นอย่างดี ตัวอย่างเช่น Developers, Programmers, UX/UI Designer, Software Engineer, Cloud & Infrastructure และ Machine Learning Engineer เป็นต้น
จากการสำรวจความต้องการในตลาดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงความต้องการ Tech Talent ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว
ในเมื่อ Tech Talent เป็นสายอาชีพที่มีความต้องการในตลาดสูง แต่ทำไมในหลาย ๆ บริษัท หรือองค์กร ยังขาดแคลนสายอาชีพนี้อยู่? ต้องบอกว่าในยุคปัจจุบัน Tech Talent เป็นอาชีพที่ยังขาดแคลนอยู่มาก เมื่อเทียบกับความต้องการในตลาด ทำให้การหา Talent ที่มีคุณสมบัติตามที่องค์กรต้องการ รวมถึงมีทักษะ และความรู้ที่สอดคล้อง และตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในองค์กรนั้นๆ นั้นหาได้ยาก
รวมถึงองค์กรที่ต้องการ Tech Talent กว่า 70% ไม่สามารถตามทันเทรนด์เทคโนโลยีได้ เนื่องจากขาดแคลนบุคลากรที่มีความรูั และทักษะด้านเทคโนโลยี จึงทำให้ไม่สามารถหาหรือดึงดูด Talent ตามที่องค์กรต้องการได้ เพราะฉะนั้น HR ควรเข้าใจโครงสร้างการทำงานในองค์กรของตนให้มากที่สุด เพื่อที่จะสามารถประเมินหรือคัดกรองพนักงานเบื้องต้นได้ ว่าแต่ละคนนั้นเหมาะกับองค์กรหรือไม่
1. รู้และเข้าใจความต้องการขององค์กร: สิ่งที่ HR และองค์กรควรให้ความสำคัญ คือการมี Requirement ที่ชัดเจน และสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร เพราะเมื่อผู้จ้างงานรู้ความต้องการของตนเองอย่างชัดเจนแล้ว จะทำให้ขั้นตอนการจ้างงาน และการคัดกรองพนักงานเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และมีประสิทธิภาพ
2. ให้ความสำคัญกับความละเอียดของ Job description (JD): การเขียน JD อย่างละเอียดจะช่วยลดเวลารวมถึงลดขั้นตอนในการตอบคำถามของทั้งฝั่งผู้สมัครและผู้ว่าจ้าง เพราะผู้สมัครจะรู้ชัดเจนว่าองค์กรของคุณต้องการอะไร และตนเองมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์กับสิ่งที่องค์กรต้องการหรือไม่ การเขียน JD ที่ดีไม่ควรเขียนแค่รายละเอียดงานเท่านั้น เพราะ JD เปรียบเสมือน fisrt impression ที่จะทำให้ผู้สมัครอยากเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร JD จึงควรเป็นเอกสารที่ช่วยดึงดูดผู้สมัคร รวมถึง เป็นการสร้างความสนใจ เช่น ผู้สมัครมีโอกาสในการเลื่อนตำแหน่งหรือไม่, ผู้สมัครจะมีโอกาสได้เรียนรู้หรือพัฒนาทักษะใหม่ๆบ้างไหม เป็นต้น
3. ความเหมาะสมของคำถามรอบสัมภาษณ์: HR หรือผู้ให้การสัมภาษณ์ควรจัดเตรียมคำถามการสัมภาษณ์ให้มีความเป็นกลาง เพื่อป้องกันอคติที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสัมภาษณ์โดยไม่ตั้งใจ รวมถึงคำถามควรมีความสอดคล้อง และเหมาะสมกับความต้องการขององค์กรต่อตำแหน่งงานนั้นๆ เพราะจะช่วยคัดกรองให้องค์กรได้บุคลากร ที่ตรงตามความต้องการขององค์กรอย่างแท้จริง
TalentSauce แหล่งรวม Tech Talent หรือ Tech Talent Pool ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยความร่วมมือกันระหว่าง Techsauce Tech Ecosystem Builder ผู้ขับเคลื่อนวงการเทคโนโลยีและ Startup และ ScoutOut ผู้นำด้านการให้บริการ พัฒนาระบบเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสรรหาบุคลากรอย่างครบวงจร ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI ที่ครอบคลุมทุกความต้องการในการจ้างงาน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยค้นหาประวัติของ Tech Talent ให้ตรงความต้องการในการจ้างงาน, ช่วยเขียน Job description, คัดกรอง Resume, ออกแบบคำถามสำหรับการสัมภาษณ์ รวมถึงการช่วยเสนอเงินเดือนเพื่อช่วยในการบริหารจัดการงบประมาณในการจ้างงาน
สามารถทดลองใช้ Talentsauce และตรวจสอบแพ็กเกจ ได้แล้วที่ Website Talentsauce.Scoutout.co ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 02-038-2639, 094-924-6162 หรืออีเมล [email protected]
หรือลงทะเบียนเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ ที่นี่
Sign in to read unlimited free articles