PRINC ทุ่ม 96 ล้าน ส่งบริษัทลูกลงทุน Health at Home หนุนธุรกิจสุขภาพ - ดูแลผู้สูงอายุ | Techsauce

PRINC ทุ่ม 96 ล้าน ส่งบริษัทลูกลงทุน Health at Home หนุนธุรกิจสุขภาพ - ดูแลผู้สูงอายุ

บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) โดยบริษัท พริ้นซิเพิล เน็กซ์ จำกัด (PRINC NEXT) ซึ่งเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนในธุรกิจเฮลท์แคร์ของ PRINC ประกาศการเข้าลงทุนใน บริษัท เฮลท์แอท โฮม จำกัด (HEATH AT HOME) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการดูแลผู้สูงอายุ มูลค่าเงินลงทุน 96 ล้านบาท

Health at home เป็นธุรกิจสตาร์ทอัพด้าน HealthTech ก่อตั้งโดยนพ. คณพล ภูมิรัตนประพิณ อายุรแพทย์ด้านผู้สูงอายุจากโรงพยาบาล Mount Sinai ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2015 โดยเป็นบริการสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามายกระดับให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานในปัจจุบัน 

ภายหลังการลงทุนดังกล่าวจะทำให้บริษัท พริ้นซิเพิล เน็กซ์ จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 39.5 ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จะมีสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 42.4 ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อย

ซึ่ง PRINC มีแผนที่จะผสานการให้บริการ ธุรกิจการดูแลผู้สูงอายุทั้งในระดับการให้บริการดูแลรักษายังสถานพยาบาล  เชื่อมโยงกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุเนอร์สซิ่งโฮม บ้านลลิสา และ ธุรกิจฟื้นฟูและดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ  PNKG Recovery & Eldercare ซึ่งจะทำให้ PRINC ผนึกความแข็งแกร่ง และก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเฮลท์แคร์ด้านผู้สูงอายุ ซึ่งการลงทุนดังกล่าว บริษัทรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ปี 2566 เป็นต้นไป

นายแพทย์กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.พริ้นซิเพิล แคปิตอล (PRINC) กล่าวว่า ทิศทางไตรมาส 4 ปี 67 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการให้บริการของศูนย์การแพทย์เฉพาะทางโรคยากซับซ้อนที่ขยายตามแผน ประกอบกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุที่มีในปัจจุบันมีหลายระดับ 

การเข้าลงทุนในสตาร์อัพด้านการดูแลผู้สูงอายุในครั้งนี้เพื่อเป็นการเชื่อมโยงประสบการณ์การให้บริการแบบไร้รอยต่อในการดูแลผู้ป่วยและผู้สูงอายุ ตั้งแต่ที่โรงพยาบาลไปจนถึงที่บ้านหรือเนอร์สซิ่งโฮม แล้วยังมีสตาร์ทอัพ ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านการดูแลผู้สูงอายุ มาเป็นตัวกลางในการเชื่อมบุคลากรการแพทย์ และผู้รับบริการเป้าหมายก็คือผู้สูงอายุ ประกอบกับแผนการขยายธุรกิจโรงพยาบาลเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ ที่มุ่งขยายยังเมืองรอง ในปัจจุบันมีจำนวน 15 แห่ง เปิดดำเนินการแล้ว 14 แห่งใน 11 จังหวัด  บริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญในการกระจายการลงทุนเฮลท์แคร์อื่นๆ เพื่อรองรับและตอบสนองต่อความต้องการของผู้รับบริการที่ต้องการฟื้นฟูและดูแลในศูนย์ดูแลและฟื้นฟูผู้ป่วย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่โรงพยาบาลตั้งอยู่

“สำหรับทิศทางผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 66 คาดว่ายังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคตามฤดูกาลที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งจากไข้หวัดใหญ่ ฯลฯ รวมทั้งผลสืบเนื่องจากการลงทุนการให้บริการโรคยากซับซ้อนจากการขยายศูนย์เฉพาะทางต่างๆในโรงพยาบาลในเครือ ทำให้คาดว่าทั้งผู้เข้ารับบริการโรงพยาบาลต่อวัน (Campus Visit per Day)  และจำนวนผู้ป่วยครองเตียงเฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Census หรือ ADC) เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ ส่วนการเข้าลงทุนใน Health at Home ครั้งนี้ เป็นแผนเชิงรุกเข้าสู่ธุรกิจเฮลท์แคร์ด้านการดูแลผู้สูงอายุ มุ่งกระจายความเสี่ยง เชื่อมโยงเครือข่ายการให้บริการระหว่างสถานพยาบาล ซึ่งจะทำให้เติมเต็มช่องว่างระหว่างกัน สร้างการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว”  นายแพทย์กฤตวิทย์กล่าว

ส่วน นายแพทย์คณพล ภูมิรัตนประพิณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง Health at Home เล็งเห็นว่าในอนาคตการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลจะเกิดขึ้นที่นอกโรงพยาบาลมากขึ้นเรื่อยๆ บริษัทจึงได้ดำเนินธรุกิจแบบ Out Of Hospital Care (OOH) ปัจจุบันได้ดำเนินการมาแล้ว 8 ปี

ประกอบด้วยบริการหลักสามอย่าง 

1.บริการจัดส่งผู้ดูแลมืออาชีพ Carepro เพื่อดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน ให้บริการมาแล้วกว่า 5000 ครอบครัว 

2. Care Center เนิร์สซิ่งโฮม ทันสมัยที่ปัจจุบันมีสองสาขา 

3. Health at Work บริการ Telemedicine สำหรับพนักงานบริษัท สามารถปรึกษาแพทย์ออนไลน์ และ จัดส่งยาถึงบ้าน ซึ่งได้ให้บริการกว่า 20,000 เคสในสองปีที่เปิดมา มีการเติบโต 300% ต่อปี

“การร่วมมือกับเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ในครั้งนี้ จะช่วยเติมเต็มการดูแลให้กับผู้รับบริการได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ที่โรงพยาบาล สู่บ้านหรือเนอร์สซิ่งโฮม พร้อมทั้งขยายพื้นที่ให้บริการได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ตั้งของโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ รวมถึงการขยายสาขา Care Center ให้ครอบคลุมรวม 10 สาขา“, นายแพทย์คณพล กล่าวทิ้งท้าย

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...

Responsive image

คนไทยไปญี่ปุ่น เตรียมสแกนจ่ายได้ ผ่านระบบ QR Code คาดเริ่มเมษาปีหน้า

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มพูดคุยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเปิดใช้งานบริการชำระเงินผ่าน QR Code ร่วมกัน ช่วยให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสะดวกสบาย ไ...

Responsive image

Jitta ก้าวสู่ปีที่ 12 เดินหน้าแก้วิกฤตการเงิน หนุนคนไทยออมและลงทุนอัตโนมัติ

Jitta เข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า...