จับตา Nokia ผู้เล่นที่นำ 5G และ One Platform ลุยตลาด B2B พาประเทศไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0 | Techsauce

จับตา Nokia ผู้เล่นที่นำ 5G และ One Platform ลุยตลาด B2B พาประเทศไทยก้าวสู่อุตสาหกรรม 4.0

หลังจากเข้าร่วมงานแถลงข่าวกลยุทธ์ของ โนเกีย (Nokia) ก็เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของบริษัทเทคโนโลยีที่ลุกขึ้นมานำเสนอภาพลักษณ์แบรนด์ในลุคใหม่ พร้อมกันนี้ยังเผยกลยุทธ์องค์กรด้วยว่า โนเกียมุ่งให้บริการด้านเทคโนโลยีเพื่อช่วยขับเคลื่อนและเร่งการเปลี่ยนสู่ดิจิทัลให้แก่ลูกค้า คู่ค้า และช่วยเพิ่มการเติบโตทางเศรษฐกิจให้ประเทศต่างๆ ได้ และในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม B2B (ฺBusiness to Business) โนเกียจึงนำเทคโนโลยีเครือข่ายที่พัฒนาอยู่ตลอด ทั้งแบบคงที่ แบบเคลื่อนที่ และระบบคลาวด์ มาเป็นตัวช่วยให้แก่ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม ร่วมกับการผลักดันเรื่องความยั่งยืน (Sustainability) ตามแนวทาง ESG (Environment, Social & Governance)

Nokia DigitalizationAjay Sharma,Head of Thailand and Cambodia, Nokia

Nokia ปรับภาพลักษณ์สู่ Digitalization

จากเดิมที่แบรนด์โนเกียเป็นที่รู้จักในด้านการพัฒนาโทรศัพท์มือถือ หลังจากถูกเทคโนโลยีดิจิทัลดิสรัปต์ก็เปลี่ยนมาขับเคลื่อนการพัฒนาโซลูชันสำหรับองค์กรและภาคอุตสาหกรรม เพื่อขึ้นเป็นแบรนด์แถวหน้าด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีเครือข่ายในตลาดโลก โดยชูจุดขายในเรื่อง ความพร้อมของเทคโนโลยี 5G อุปกรณ์สำหรับการเชื่อมต่อการใช้งานเครือข่าย บริการด้านคลาวด์ ตลอดจนแพลตฟอร์มบริหารจัดการข้อมูลที่บริษัทพัฒนาขึ้น

"โนเกียเปลี่ยนโลโก้เพื่อมาคอนเน็กกับทุกภาคส่วน และเพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เราลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาตั้งแต่ปี 2000 รวมแล้วใช้เงินมากกว่า 140 พันล้านยูโร โดยมี Nokia Bell Labs เป็นแหล่งเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินทางปัญญาและการวิจัยในระยะยาว" 

คุณอาร์เจย์ ชาร์มา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท โนเกีย ประจำประเทศไทยและกัมพูชา กล่าวต่อถึงความเคลื่อนไหวและกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีล่าสุดของบริษัท รวมถึงข้อมูลการดำเนินกิจการในปัจจุบันของโนเกีย (ประเทศไทย) ว่า บทบาทของบริษัทคือ การผลักดันเรื่อง Digitalization ในประเทศไทย และช่วยส่งเสริมให้กลุ่มลูกค้าของโนเกียสามารถเปลี่ยนผ่านและเตรียมพร้อมเพื่อเข้าสู่โลกดิจิทัลที่สมจริง เชื่อมต่อถึงกัน และไร้รอยต่อยิ่งขึ้น โดยจะร่วมผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลในทุกภาคอุตสาหกรรมเพื่อสนับสนุนประเทศไทยให้เดินหน้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ด้วยเทคโนโลยีที่บริษัทพัฒนาขึ้น

"เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากผลิตภาพที่เพิ่มขึ้น โซลูชันเพื่อความยั่งยืนที่ได้รับการส่งเสริม และการเข้าถึงที่มากขึ้นผ่านการบริหารจัดการโซลูชันดิจิทัล ซึ่งโนเกียทุ่มเทอย่างต่อเนื่องเพื่อให้การสนับสนุนแก่คู่ค้าและลูกค้าของเราตลอดเส้นทางนี้ และเราหวังที่จะได้ผลักดันให้เกิดการพัฒนาประเทศได้อย่างต่อเนื่องต่อไป”

Nokia Digitalizationในส่วนของการนำเครือข่ายมาพัฒนาและสร้างบริการสู่อุตสาหกรรม 4.0 ของโนเกีย แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

  • โครงสร้างพื้นฐานด้านเครือข่าย (Network Infrastructure)
  • เครือข่ายเคลื่อนที่ (Mobile Networks)
  • คลาวด์และบริการเครือข่าย (Cloud & Network Services)
  • เทคโนโลยีของโนเกีย (Nokia Technologies) การพัฒนาที่นำไปสู่การจดสิทธิบัตร

สำหรับผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยี 5G จะเข้ามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โนเกียจึงให้ความสำคัญเรื่องนี้และเผยถึงการใช้ศักยภาพของ 5G แบบเต็มสูบ จากการทำงานร่วมกับแบรนด์และพาร์ตเนอร์ต่างๆ ซึ่งแยกได้เป็น 3 กลุ่มธุรกิจ นั่นคือ

  • โอเปอเรเตอร์หรือผู้ให้บริการเครือข่ายต่างๆ (Service provider partners) เช่น docomo, AT&T
  • ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ และการให้คำปรึกษา (Cloud, system integrators & consulting) เช่น AWS, Accenture
  • ผู้ให้บริการในระบบนิเวศอุตสาหกรรม (Industrial ecosystem partners) เช่น Bosch, Komatsu

Case Study ประเทศที่เป็นผู้นำด้านการใช้ 5G

หลังจากศึกษาการใช้งาน 5G และการทำ Digital Transformation ในประเทศต่างๆ คุณเทเรนซ์ แมคเคบ (Terence McCabe) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท โนเกีย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และประเทศญี่ปุ่น มาเผยถึงภาพรวมเกี่ยวกับความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ลำดับการพัฒนาเทคโนโลยี บรอดแบนด์ 6 Generation, กรณีศึกษาจาก 3 ประเทศ และนวัตกรรมกับโซลูชันล่าสุดของโนเกีย

พัฒนาการของบรอดแบนด์ 6 Generation 

  • Gen 1 Voice
  • Gen 2 Internet
  • Gen 3 3play
  • Gen 4 4K & Gaming
  • Gen 5 VR Cloud & SME
  • Gen 6 Fibre for Everything

ถ้าดูการพัฒนาบรอดแบนด์ในประเทศไทย ปัจจุบันจัดอยู่ใน Gen 4 ส่วน Gen 6 นั้น อินเทอร์เน็ตจะพัฒนาจาก 25G, 50G ไปถึง 100G ส่งผลให้ระบบอัตโนมัติทำงานได้อย่างสมบูรณ์ โดยคาดว่าจะได้ใช้งานในปี 2030

Nokia 5GTerence McCabe, Chief Technology Officer, Nokia Asia Pacific & Japan

และจากการศึกษาเรื่องารใช้งาน 5G ในประเทศต่างๆ ผู้บริหารโนเกียยก พัฒนาการของ 5G ใน 3 ประเทศ มาเล่าเป็นกรณีศึกษา ได้แก่

  • เกาหลีใต้ ประเทศที่มีการใช้ 5G เป็นรายแรกๆ ของโลก และใช้อินเทอร์เน็ตจาก Fibre Broadband เป็นหลัก โดยในกลุ่มผู้บริโภคมีการใช้งาน 5G อย่างแพร่หลาย ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรม รัฐบาลส่งเสริมการใช้ 5G ด้วยการจัดสรรคลื่นความถี่สำหรับภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เพื่อให้การใช้งาน 5G เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

  • สิงคโปร์ อีกประเทศที่ขึ้นมาเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เนื่องจากรัฐบาลให้การสนับสนุนและออกนโยบายที่ดึงดูด Tech Talents ได้มาก สิงคโปร์จึงมีบุคลากรด้านเทค มีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยี และพร้อมรองรับด้านอุตสาหกรรม 4.0 โดยสิงคโปร์มีเทคโนโลยี 5G ใช้งานที่ความเร็ว 10G และเริ่มทดสอบการใช้งาน 6G แล้ว

  • สหรัฐอเมริกา ประเทศที่ใช้ Fixed Wireless Access (FWA) เป็นหลัก ส่วนการพัฒนาเทคโนโลยี อเมริกาเป็นผู้นำที่ก้าวสู่การพัฒนา Gen 6 ก่อนใคร อีกทั้งยังอยู่ระหว่างทดสอบการใช้อินเทอร์เน็ต 25G ในบางพื้นที่

Private Wireless Network เป็นอีกหนึ่งโซลูชันที่โนเกียให้ความสำคัญและให้บริการในลักษณะ Solution-as-a-Service ทั้งเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โซลูชัน One Platform ที่สามารถปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะกับแต่ละอุตสาหกรรมได้ ตลอดจนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สนับสนุนให้การใช้งานเทคโนโลยีของโนเกียมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น ชิปเซ็ต ที่โนเกียพัฒนาขึ้นเอง และสำหรับบริการด้านนี้ โนเกียมีผู้ใช้บริการที่อยู่ในภาคขนส่ง ภาคพลังงาน ภาคการผลิต ภาครัฐ ฯลฯ กระจายอยู่ในทุกทวีปทั่วโลก รวมแล้วมีลูกค้าใช้งานมากกว่า 635 ราย

Nokia One platform

นวัตกรรมและโซลูชันคัดสรรจาก Nokia ที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมหลักในไทยไปสู่ดิจิทัล

เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว โนเกียจัดงานแสดงเทคโนโลยีที่เป็นไฮไลต์และเผยกลยุทธ์ของบริษัทภายหลังปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจระยะยาวของบริษัท ในงาน ‘Amplify Thailand’ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทำให้เห็นสุดยอดนวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ และเทคโนโลยีทั้งหมดสำหรับองค์กรธุรกิจ รวมทั้งเครือข่ายเคลื่อนที่ เครือข่ายคลาวด์ และเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย ซึ่งคัดสรรมาเป็นพิเศษจากผลงานที่นำไปจัดแสดงในงานระดับโลกอย่าง Mobile World Congress 2023 (MWC’23) ณ กรุงบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน อาทิ

  • MX Industrial Edge
    • Nokia MX Industrial Edge คือ โซลูชัน Edge สำหรับองค์กรที่พร้อมสำหรับอนาคต ซึ่งสามารถเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของเทคโนโลยีด้านปฏิบัติการ (OT) ที่เป็นการผสานความรวดเร็วเข้ากับความง่ายในการใช้งานของโมเดล edge-as-a-service เข้ากับสถาปัตยกรรมเอดจ์ที่มีประสิทธิภาพสูง ยืดหยุ่น และปลอดภัย โซลูชันนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการในภารกิจที่สำคัญสำหรับสภาพแวดล้อมทางอุตสาหกรรมที่เน้นความสำคัญในสินทรัพย์
    • Nokia MX Industrial Edge ที่เอื้อต่อกรณีการใช้งานด้านธุรกิจที่สำคัญสำหรับองค์กร เช่น การติดตามแบบเรียลไทม์ของสัญญาณวิดีโอและการแจ้งเตือน รวมทั้งโซลูชันการวิเคราะห์วิดีโอขั้นสูงสำหรับการใช้งานในภารกิจสำคัญ อาทิ การรับรองคุณภาพและความปลอดภัย

  • NetGuard Cybersecurity Dome
    • NetGuard Cybersecurity Dome คือ โซลูชันด้านความปลอดภัยระบบ Orchestration ระดับรางวัล ที่มาพร้อมกับกรณีใช้งาน 5G ที่ติดตั้งล่วงหน้าสำหรับการรับรองความปลอดภัยเครือข่าย ทีมดูแลด้านความปลอดภัยผ่านระบบ Orchestration สามารถเลือกกรณีใช้งาน 5G ได้จากแคตตาล็อกแบบครบวงจร (Comprehensive catalogue) ที่ครอบคลุมเกี่ยวกับเทคโนโลยีด้านการสื่อสารโทรคมนาคมทั้งหมด ตั้งแต่สถานีฐาน (RAN) จนถึงโครงข่ายขนส่ง (Transport) และโครงข่ายหลัก (Core)
    • บริการเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานความสามารถของระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์แบบตรวจหาและตรวจสอบแบบขยาย หรือ XDR (Extended Detection and Response) ที่เก็บข้อมูล รวบรวม วิเคราะห์ และเทียบเคียงความสัมพันธ์ของข้อมูลความปลอดภัยจากแหล่งข้อมูลจากหลากหลายที่มา และทำให้สมบูรณ์ขึ้นด้วยบริบทด้านการสื่อสารโทรคมนาคมที่จะช่วยให้ทีมฝ่ายปฏิบัติการด้านความปลอดภัยเข้าถึงความเสี่ยงทางธุรกิจ ปรับปรุงพัฒนาการตัดสินใจ รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายและความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น 

  • กลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันเครือข่ายออปติคอล (Nokia Optical Product Solutions Portfolio)
    • ผลิตภัณฑ์และโซลูชันเครือข่ายออปติคอลของโนเกีย ช่วยให้สามารถใช้งานเครือข่ายที่เพิ่มขึ้นได้อย่างไม่จำกัด เพื่อเปิดใช้งานการเชื่อมต่อพื้นฐานสำหรับการสื่อสารแบบเครือข่าย โซลูชันของโนเกียที่เพิ่มความสามารถของเครือข่ายนับจากเครือข่ายเอดจ์ (Edge) และข้ามไปถึงระบบการเชื่อมต่อสัญญาณข้อมูลแบบระยะไกล/ แกนหลัก (long-haul/core) และใต้ทะเล ไปพร้อมกับการลดความซับซ้อนในการทำงานของเครือข่ายให้มีความฉลาดและเป็นอัตโนมัติยิ่งขึ้น เพื่อส่งมอบบริการที่มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและลดค่าใช้จ่ายการเป็นเจ้าของเครือข่าย (TCO)
    • โซลูชันเครือข่ายอัตโนมัติ (Network Automation) ของโนเกียจะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการ Webscale และองค์กรขนาดใหญ่สามารถเพิ่มผลประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

Nokia 5GPerry Poehlmann Head of Marketing, Nokia Asia Pacific and Japan

  • ชิปเซ็ต ReefShark ของโนเกีย 
    พัฒนาเพื่อเสริมพอร์ตเครือข่าย 5G แบบครบวงจรให้โนเกีย โดยเป็นการเพิ่มความชาญฉลาดและประสิทธิภาพให้กับเสาอากาศ MIMO ขนาดใหญ่ และโมดูลระบบ AirScale สำหรับชิปเซ็ตที่โนเกียพัฒนาขึ้นและนำไปต่อยอดเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่เพิ่มขึ้นนี้ มาพร้อมกับซิลิคอนดีไซน์ เช่นเดียวกับความชำนาญของบริษัทในการพัฒนาเสาอากาศสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์จาก Nokia Bell Labs มาทำให้โซลูชันที่มีสมรรถนะสูงและประสิทธิภาพสูงเกิดขึ้นจริง

  • แพลตฟอร์มที่เปิดใช้งานชิป PSE-6s ของโนเกีย 
    ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเครือข่ายมั่นใจในเครือข่ายการส่งข้อมูลออปติคอลว่า สามารถปรับขนาดสัญญาณให้สอดคล้องกับความต้องการความจุที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ เพื่อส่งมอบบริการคลื่นความถี่แบบไฮสปีดสูงด้วยประสิทธิภาพที่รวมถึง 400GE และ 800GE ขณะเดียวกันยังช่วยลดการใช้พลังงานในเครือข่ายลงอีกด้วย

  • ชิปเซ็ต Quillion รองรับโมดูล GPON, XGS-PON, NG-PON2 และ Multi-PON (เช่น GPON+XGS-PON) ของโนเกีย 
    มาพร้อมความหนาแน่นของพอร์ตในระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม และความสามารถในการไม่ปิดกั้นแบบเต็มขั้น และยังประหยัดพลังงานได้ถึง 50% ช่วยเพิ่มคุณสมบัติทางการแข่งขัน รวมถึงการนำเสนอนวัตกรรมและสิ่งที่แตกต่างในเวลาที่เหมาะสม โนเกียได้ตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อใช้ประโยชน์จากความสามารถในการออกแบบ ASIC การประมวลผลเครือข่ายประสิทธิภาพสูงที่เป็นที่ยอมรับ และพัฒนาชิปเซ็ต Quillion ขึ้นมา

  • ซิลิคอนประมวลผลเครือข่าย FP5 ของโนเกีย 
    มากับคุณสมบัติที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดของเครือข่าย IP ซึ่งพร้อมปกป้องการรับส่งข้อมูลบนเครือข่ายจากภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์อีกด้วย โดยชิปเซ็ต FP5 คือ ซิลิคอนรูตติงที่มาพร้อมการเข้ารหัสแบบ Integrated Line Rate Encryption สำหรับบริการเครือข่ายแบบ L2, L2.5 และ L3 ที่ความเร็วสูงสุดได้ถึง 1.6 Tb/s โดยชิปเซ็ต FP5 ได้สร้างนิยามใหม่ด้านความยั่งยืนให้กับการวางเส้นทางเครือข่าย IP โดยช่วยลดการสิ้นเปลืองพลังงานได้ถึง 75% เมื่อเทียบกับชิปเซ็ตรุ่นก่อน

สรุปได้ว่า โนเกียนำความสามารถอันหลากหลายของเทคโนโลยีเครือข่ายมาให้บริการผ่านอุปกรณ์ต่างๆ ที่รองรับการใช้งานในระดับบุคคลไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม โดยทำงานร่วมกับโอเปอเรเตอร์ในหลายประเทศ บริษัทผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ (SI : Software Integration) และผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม ในการสร้างสรรค์บริการและแอปพลิเคชันด้านดิจิทัล เพื่อทำให้บริการในภาคอุตสาหกรรมมีความเสถียรและทำให้ระบบอัตโนมัติ (Autonomous) ทำงานง่ายขึ้น 

ส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีที่ระบุไว้ในบทความนี้จึงสะท้อนให้เห็นว่า โนเกียมีจุดยืนที่ชัดเจนในด้านการกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมในประเทศไทย และร่วมผลักดันความก้าวหน้าในด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยการช่วยสนับสนุนผู้ให้บริการเครือข่ายและองค์กรในประเทศไทย ตลอดเส้นทางของการพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล นอกจากนี้ โนเกียยังกำหนดแผนดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG อาทิ ลดการใช้พลังงาน ลดการสร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ในทุกๆ กระบวนการทางธุรกิจ ปรับปรุงกระบวนการจัดการขยะ ฯลฯ 

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...

Responsive image

คนไทยไปญี่ปุ่น เตรียมสแกนจ่ายได้ ผ่านระบบ QR Code คาดเริ่มเมษาปีหน้า

สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้เริ่มพูดคุยกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อเปิดใช้งานบริการชำระเงินผ่าน QR Code ร่วมกัน ช่วยให้นักท่องเที่ยวใช้จ่ายสะดวกสบาย ไ...

Responsive image

Jitta ก้าวสู่ปีที่ 12 เดินหน้าแก้วิกฤตการเงิน หนุนคนไทยออมและลงทุนอัตโนมัติ

Jitta เข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า...