มองกระแส Layoff ต้นปี 2024: เซ่นพิษเศรษฐกิจหรือแรงกระแทกจาก Generative AI ? | Techsauce

มองกระแส Layoff ต้นปี 2024: เซ่นพิษเศรษฐกิจหรือแรงกระแทกจาก Generative AI ?

เปิดปี 2024 แค่ไม่กี่วัน โซเชียลมีเดียก็เต็มไปด้วยข่าวบริษัทเทคโนโลยีและธุรกิจต่างๆ ปลดพนักงานต่อเนื่อง เว็บไซต์ Layoffs.fyi ซึ่งติดตามและรวบรวมข้อมูลการเลย์ออฟทั่วโลกตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาดมาจนถึงปัจจุบัน เผยว่าเดือนนี้มีพนักงานที่ถูกปลดไม่ต่ำกว่า 28,963 คน จากบริษัทและสตาร์ทอัพ 103 แห่ง โดยอุตสาหกรรมธุรกิจการเงินได้รับกระทบมากที่สุด (ข้อมูลวันที่ 31 มกราคม)

แม้ว่าภาพรวมจะไม่ย่ำแย่เท่ากับเดือนมกราคมปี 2023 ซึ่งยอดการเลย์ออฟเกือบแตะ 9 หมื่นราย จาก 277 บริษัท แต่ก็ไม่ใช่สัญญาณที่ดีนักสำหรับคนทำงานในแวดวงนี้

ถอดสถิติ : บริษัทดังที่ปลดพนักงาน

  • Duolingo แอปพลิเคชั่นสอนภาษาปลดพนักงานสัญญาจ้าง 10% และหันมาพึ่ง AI แทน
  • Humane สตาร์ทอัพผู้พัฒนา AI Pin ปลดพนักงาน 4% ก่อนเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุผลการตัดงบประมาณ
  • Amazon เลย์ออฟพนักงานในอุตสาหกรรมคอนเทนต์หลายร้อยตำแหน่ง ทั้ง Prime Video ค่ายหนัง Amazon MGM Studios หลายร้อยตำแหน่ง และเกมสตริมมิง Twitch อีก 500 ตำแหน่ง
  • Pixar สตูดิโออนิเมชันภายใต้ Disney มีแผนลดพนักงาน 20% ในปีนี้
  • Apple ออกคำสั่งให้พนักงาน 121 รายในซานติเอโกเลือกระหว่างย้ายไปทำงานที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัสแทน หรือลาออก
  • Microsoft ปลดพนักงานแผนกเกมมิง 1,900 นับเป็นเวลา 3 เดือนหลังจากเข้าซื้อค่ายเกม Activision Blizzard สำเร็จ เพื่อลดการทำงานซ้ำซ้อนกัน
  • Google ปลดพนักงานหลายร้อยตำแหน่ง ทั้งทีมงานแผนกฮาร์ดแวร์ Voice Assistant และ AR ทีมวิศวกรกลางของบริษัท รวมไปถึงพนักงานที่ดูแลโปรเจกต์ห้องทดลองลับ X ที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google ตั้งขึ้นเพื่อวิจัยพัฒนานวัตกรรมโดยเฉพาะ Sundar Pichai ยังกล่าวถึงแผนที่จะปลดคนเพิ่มอีกในปีนี้ เพื่อโฟกัสกับการลงทุนใหม่
  • Youtube เลิกจ้างพนักงาน 100 คน
  • TikTok เลิกจ้างพนักงาน 60 คนในลอสแองเจลิส เพื่อลดจำนวนพนักงาน
  • Paypal ปลดคน 9% ของพนักงานในบริษัท หรือประมาณ 2,500 คน กระทบทั้งพนักงานเดิมและตำแหน่งที่เปิดรับใหม่

นอกจากนี้ยังมีบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพทั่วโลกที่เดินหน้าปลดพนักงานในเดือนนี้กว่า 100 ราย อาทิ eBay, Riot Games, SolarEdge, Discord, Intel, Hyperloop One (ปิดกิจการ) และ SAP

การเลย์ออฟรอบนี้ต่างจากปีที่แล้วอย่างไร ?

ฤดูเลย์ออฟมาเยือนตั้งแต่ต้นปี ส่วนหนึ่งเพราะบรรดานักลงทุนคาดหวังว่าธุรกิจยักษ์ใหญ่จะยังสามารถเติบโตหรือทำกำไรได้ดี แม้เผชิญกับแรงกดดันทางเศรษฐกิจ ส่งผลให้หลายบริษัทพยายามลดสเกลในบางแผนกเพื่อรักษาเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของนักลงทุน

แต่ปัจจัยหลักที่นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่าน่าจะมาจากการหันมาลงทุนในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กันเต็มสูบ โดยเฉพาะ Generative AI แม้แต่ Sundar Pichai ซีอีโอ Google เปิดเผยว่าบริษัทมีแผนที่จะปลดคนเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ และจัดสรรการลงทุนใหม่เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนา Gemini โมเดล AI ใหม่ที่ทรงพลัง

จากการชี้แจงของ Pichai จะเห็นได้ว่ารูปแบบการเลิกจ้างในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อทุกทีม และยังมีทีมที่ต้องการพนักงานใหม่เพิ่มเช่นกัน

สำนักข่าว Bloomberg ตั้งข้อสังเกตว่าการปลดพนักงานของ Google ในปีนี้จะพุ่งเป้าไปยังทีมหรือแผนกเฉพาะกลุ่มมากขึ้น และไม่เปิดเผยตัวเลขชัดเจน แต่จะใช้คำคลุมเครืออย่าง “ไม่กี่ร้อยคน” และ “หลายร้อยคน” และเป็นไปได้ว่าบริษัทอื่นๆ ในซิลิคอนแวลลีย์เดินตามรอยกลยุทธ์ของ Google บ้าง 

มองในแง่หนึ่งก็เป็นวิธีจำกัดงบประมาณที่จะต้องจ่ายชดเชยให้กับพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง และวางแผนการลงทุนในด้านอื่นๆ ต่อไป แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีกำลังทำให้การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากนั้นเป็นเรื่องปกติ หรือเรียกเป็น ‘ธรรมเนียมประจำปี’ ก็ว่าได้

นอกจากนี้ Bloomberg ยังเปิดเผยเอกสารภายในของ Google ว่าพนักงาน 630 คนถูกปลดต้นเดือนมกราคม รวมตำแหน่งระดับสูงอย่างรองประธาน 4 คนและผู้อำนวยการ 25 คน (ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีรายได้หลายล้านดอลลาร์ต่อปี)

อดีตพนักงาน Google ได้เผยความรู้สึกกับ Bloomberg ว่าพนักงานในบริษัทเห็นการเลิกจ้างคนทีละเล็กทีละน้อย ไม่รวดเร็ว แต่มีความต่อเนื่อง ที่สำคัญการกระทำเช่นนี้กำลังบ่อนทำลายขวัญกำลังใจของพนักงาน 

เพราะถึงอย่างไรตัวเลขสถิติเหล่านี้ ก็คือ ‘มนุษย์’ ที่มีทักษะและทุ่มเททำงานให้กับบิ๊กเทคเหล่านี้ไม่มากก็น้อย ถือเป็นปัญหาใหญ่ของวงการที่อาจไม่สามารถดึงดูดหรือซื้อใจ Talent รุ่นใหม่ๆ ในระยะยาว จนกระทบไปถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่ได้เกิดขึ้นโดยมนุษย์

ทั้งนี้ เราต้องไม่ลืมว่ากระแสนิยมของเทคโนโลยีนั้นมีทั้งช่วง Hype ทั้งช่วงที่ล้มหายตายจาก บรรดานักลงทุน VC หน้าใหม่อาจตื่นเต้นและแห่ลงทุนในสตาร์ทอัพ AI แต่ก็ต้องคอยเฝ้าระวังฟองสบู่อีกเช่นกัน

ตลาดแรงงานโตสวนกระแส

แม้ว่าสถานการณ์ในเดือนที่ผ่านมาแทบจะเป็นฝันร้ายสำหรับคนทำงานสายเทคฯ แต่ตัวเลขของการจ้างงานในสหรัฐอเมริกากลับไม่เป็นเช่นนั้น กระทรวงแรงงานเปิดเผยว่าอัตราการจ้างงานในประเทศนั้นเพิ่มขึ้น 353,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 185,000 ตำแหน่ง ตามข้อมูลของ Dow Jones ซึ่งต่ำกว่าระดับ 216,000 ตำแหน่งในเดือนธันวาคมและ 517,000 ตำแหน่งในเดือนมกราคม 2023 

นอกจากนี้ค่าจ้างรายชั่วโมงยังเพิ่มขึ้นเป็น 4.5% ต่อปี ซึ่งแข็งแกร่งกว่า 4.1% ของเดือนที่แล้ว ในขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวอยู่ที่ 3.7% สะท้อนว่าบางตำแหน่งงานในปัจจุบันยังคงต้องการ 'แรงงานคน' อยู่

นี่เป็นเพียงคลื่นระลอกแรกๆ จาก Generative AI เท่านั้น และอาจกล่าวได้ว่า ปัญญาประดิษฐ์จะเข้ามาแทนที่ ‘งาน’ รวมถึง ‘ทักษะ’ บางส่วนของมนุษย์ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป

อ้างอิง: Bloomberg, Quartz, The Verge, Layoffs.fyi, NPRG, New York Times, CNBC, Forbes

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

VC เผยวิธีมองสตาร์ทอัพให้ขาด ก่อน ORZON Ventures เข้าไปลงทุน

คุยกับ 'คุณณรัณภัสสร์ ฐิติพัทธกุล ผู้อำนวยการการลงทุน ORZON Ventures' เรื่องการทำงานระหว่าง OR กับ 500 TukTuks, เกณฑ์การพิจารณาสตาร์ทอัพที่น่าลงทุน, เหตุที่บางดีลเกิด/ไม่เกิด รวม...

Responsive image

ติววิชา Sustainability ก่อนมุ่งสู่ ‘ESG Report’ คอนเทนต์ที่สตาร์ทอัพควรอ่าน จากงาน ESG ESSENTIAL WORKSHOP

Key Messages เกี่ยวกับ Sustainability & ESG จากงานสัมมนา ESG ESSENTIAL WORKSHOP: Navigating Sustainability for Post-Revenue Startups ในโครงการ KATALYST by KBank โดย Beacon VC...

Responsive image

ปรับองค์กรสู่ Digital Future เริ่มที่ ‘คน’ หรือ ‘เทคโนโลยี’ ฟัง NTT DATA ผู้เชี่ยวชาญ Digital Transformation

บทความนี้ Techsauce จะพาไปหาคำตอบว่า…ทำไมทรัพยากรคนถึงมีผลต่อ Digital Transformation และองค์กรควรรับมืออย่างไร?...