กรุงศรี Krungsri (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก ประกาศแผนงานทางธุรกิจประจำปี 2565 เพื่อสานพันธกิจที่วางไว้ให้สำเร็จในการเป็น “สถาบันการเงินไทยที่เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า พร้อมเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน” ผ่านสามแกนกลยุทธ์หลักที่ให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงอาเซียน การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจได้ และการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและนวัตกรรม กรุงศรีมุ่งมั่นที่จะนำพาลูกค้า
คุณเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) กล่าวว่า นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายซึ่งกรุงศรียังคงรักษาคำมั่นในการช่วยเหลือเชิงรุกให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้วยมาตรการต่าง ๆ ขณะที่ยังคงรักษาประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งด้วยการปรับตัวรับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
เมื่อมองย้อนกลับไปในปีแรกของแผนงานธุรกิจระยะกลางประจำปี 2564-2566 ถือได้ว่ากรุงศรีประสบความสำเร็จในหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเสริมสร้างประสิทธิภาพและการขยายธุรกิจสู่อาเซียน ที่ล่าสุดได้เข้าสู่ประเทศเวียดนามซึ่งถือเป็นประเทศที่ 5 ของเราในภูมิภาคอาเซียน ปัจจุบันธุรกิจของกรุงศรีในอาเซียนคิดเป็น 6% ของทั้งหมด ซึ่งกรุงศรีตั้งเป้าที่จะผลักดันสู่ 10% ในอนาคต
นอกจากนี้ เรายังส่งเสริมการสร้างระบบนิเวศและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ (ecosystems and partnerships) ด้วยระบบนิเวศ ยานยนต์ ที่อยู่อาศัย และการพาณิชย์ (Mobility, Living, Commerce) ซึ่งเป็น 3 ระบบนิเวศหลักที่พัฒนาขึ้นมาจากการดำเนินชีวิตของลูกค้าในปัจจุบัน
อีกทั้งกรุงศรียังเดินหน้าตามแนวทางการทำธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่เน้นในด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) หรือ ESG ด้วยการประกาศเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน
และออกผลิตภัณฑ์สินเชื่อและตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับแนวทางความยั่งยืนเป็นรายแรกของประเทศไทย ซึ่งความสำเร็จนี้ได้นำพาให้กรุงศรีเป็นผู้นำในตลาดธุรกิจการเงินเพื่อความยั่งยืน และเรายังคงประสบความสำเร็จด้านดิจิทัลและนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของเราให้ทันสมัยยิ่งขึ้นและเดินหน้าสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินอัจฉริยะของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยไปด้วยกัน”
“ในปี 2565 นี้ นับเป็นปีที่สองของแผนงานธุรกิจ กรุงศรีพร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้าของเรา ‘เดินหน้าสู่อาเซียนกับกรุงศรี’ (Go ASEAN with Krungsri) ผ่านสามแกนหลัก คือ การพาลูกค้าของเราไปให้ไกลกว่าประเทศไทย (Beyond Thailand) ด้วยการใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่เข้มแข็งของ MUFG และความแข็งแกร่งของกรุงศรีในการเชื่อมโยงตลาดในภูมิภาคอาเซียน การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจผ่านการให้บริการที่เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน (Beyond Banking) เพื่อทั้งลูกค้าธุรกิจและลูกค้ารายย่อย ตลอดจนการเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการทำมากกว่าเทคโนโลยี (Beyond Tech) ด้วยการพัฒนาด้านดิจิทัลและนวัตกรรมเพื่อเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้า”
ด้านคุณไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรีเป็นสถาบันการเงินไทยที่มีเครือข่ายครอบคลุมประเทศในอาเซียนมากที่สุด ด้วยการใช้ประโยชน์จากจุดแข็งและความเป็นเอกลักษณ์ของเราที่เป็นส่วนหนึ่งของ MUFG เรากำลังสร้างเครือข่ายที่เชื่อมโยงตลาดในภูมิภาคอาเซียนและก้าวไปสู่การเป็นผู้ประกอบการในระดับอาเซียน
ปัจจุบัน กรุงศรีได้ให้บริการลูกค้าไปแล้วมากกว่า 500,000 บัญชี ในกัมพูชา สปป.ลาว และฟิลิปปินส์ รวมมูลค่าสภาพคล่องแล้วกว่า 64,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกัน สำหรับลูกค้าคนไทยเรายังคงเดินหน้าขยายโซลูชั่นในการเพิ่มมูลค่าในการทำการค้าระหว่างประเทศ (cross-border value chain solutions) ในอุตสาหกรรมต่างๆ และบริการให้คำปรึกษาเพื่อช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับลูกค้าธุรกิจไปเติบโตใน 9 ประเทศทั่วทั้งอาเซียน และอีกมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลกผ่านเครือข่ายของ MUFG
นอกจากนี้เรากำลังขยายบริการธุรกรรมการโอนเงินระหว่างประเทศทั้งสำหรับลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเดิมที่มีการเชื่อมต่อบริการ 3 ประเทศในปีที่ผ่านมา ให้เป็น 8 ประเทศภายในปี 2565 โดยปัจจุบันนี้ มีธุรกรรมการชำระเงินและการโอนระหว่างประเทศในอาเซียนผ่านกรุงศรีแล้วมากกว่า 500,000 ครั้ง มูลค่ารวมมากกว่า 200,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐต่อปี
ในฐานะพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ กรุงศรีได้ให้บริการที่เป็นมากกว่าสถาบันการเงิน เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละวัน โดยการสร้างระบบนิเวศที่สำคัญครอบคลุมในสามขอบข่ายคือ ยานยนต์ ที่อยู่อาศัย และการพาณิชย์ (Mobility, Living, Commerce) ในปี 2565 เราก็ยังคงเดินหน้าสร้างพันธมิตรในกลุ่มธุรกิจหลากหลาย ทั้งธุรกิจด้านพลังงาน โทรคมนาคม ประกัน อสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจรายย่อยและเชิงพาณิชย์ต่อไป
รวมถึงเรากำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรใน digital assets และ private markets เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่มีเอกลักษณ์และน่าสนใจให้กับลูกค้าของเรา นอกจากนี้แล้ว กรุงศรีได้ร่วมมือกับ MUFG ดำเนินการตามแนวทางการทำธุรกิจ ESG ด้วยเป้าหมายที่จะเป็นองค์กรที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคารภายในปี 2573 และจากการให้บริการทางการเงินภายในปี 2593 อีกทั้ง เรายังมุ่งมั่นเป็นผู้นำด้านการเงินที่คำนึงถึง ESG และสนับสนุนลูกค้าของเราให้บรรลุสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนไปด้วยกัน
ในการนำด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม กรุงศรีสามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายและการลงทุนในด้านเทคโนโลยีระดับโลกของ MUFG ในปี 2565 กรุงศรีจะเน้นเรื่องการขยาย API เชื่อมโยงกับธนาคารพันธมิตรในอาเซียน การร่วมสร้าง AI Tech Lab กับ MUFG และพันธมิตรเช่น Grab การเป็นผู้นำในโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินอัจฉริยะและแพลตฟอร์มเชิงพาณิชย์ให้กับตลาดทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ โดยเราวางแผนลงทุนในด้านไอทีปีนี้ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท”
“การเชื่อมโยงอาเซียน การเป็นพันธมิตรที่ลูกค้าไว้วางใจ และการนำด้วยดิจิทัลและนวัตกรรม เป็นกุญแจสำคัญของเราในปี 2565 เราพร้อมที่จะพาลูกค้าไปมีประสบการณ์ Beyond Thailand, Beyond Banking และ Beyond Tech ด้วยกัน”
ในปี 2565 กรุงศรีคาดว่าสินเชื่อจะเติบโตในระดับ 3-5% และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิที่ 3.1-3.3% การเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2.6%
Sign in to read unlimited free articles