ก่อนหน้านี้คนมักคิดว่า “AI ไม่สามารถเอาชนะมนุษย์ในการทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้” จนมีนักวิจัยกลุ่มหนึ่งออกมาพิสูจน์แนวคิดนี้ ด้วยการทดสอบโดยเอาคน 151 คน มาแข่งกับ AI เพื่อใช้ความคิดสร้างสรรค์

ใครจะแพ้ ใครจะชนะ มาดูกัน!

เมื่อมนุษย์ต้องแข่งกับ AI ใครจะชนะ

กลุ่มนักวิจัยศึกษาในหัวข้อ ‘The current state of artificial intelligence generative language models is more creative than humans on divergent thinking tasks’ หรือการทดสอบว่า AI สามารถทำงานสร้างสรรค์ได้ดีเพียงใดเมื่อเปรียบเทียบกับมนุษย์ และได้ตีพิมพ์ในรายงานทางวิทยาศาสตร์ของ Nature (วารสารวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดจากประเทศอังกฤษ)

ในการศึกษาได้เปิดให้ผู้เข้ารับการทดสอบ 151 คนร่วมมือกันเอาชนะ AI อย่าง ChatGPT-4 ผ่านบททดสอบทั้งหมด 3 รูปแบบ เพื่อวัดทักษะ Divergent Thinking หรือการคิดริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ได้แก่

• แบบทดสอบที่ 1: Alternative Use Task ให้คนและ AI คิดค้นการใช้สิ่งของในชีวิตประจำวัน เช่น เชือกหรือส้อม ในรูปแบบที่ต่างจากเดิมอย่างสร้างสรรค์
• แบบทดสอบที่ 2: Consequences Task คนและ AI จะต้องจินตนาการถึงผลลัพธ์ของสถานการณ์ที่สมมติว่าถ้าเกิดสิ่งนี้ขึ้นจะเกิดอะไรตามมา เช่น จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามนุษย์ไม่ต้องนอนอีกต่อไป
• แบบทดสอบที่ 3: Divergent Associations Task ให้คนและ AI แข่งกันสรรหาคู่คำนาม 10 คู่ ที่มีความหมายตรงข้ามกันแบบสุดขั้ว

หลังจากทำแบบทดสอบทั้งหมดแล้ว พบว่า ChatGPT-4 ให้คำตอบที่แปลกใหม่และมีรายละเอียดเยอะกว่าคน ซึ่งด้านนักวิจัยเผยว่า พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบว่าคำตอบที่ได้มาจาก AI ว่าถูกต้องและสมเหตุสมผลหรือไม่ เพียงแค่ดูถึงความแปลกใหม่เท่านั้น และการศึกษาครั้งนี้ทำมาเพียงเพื่อวัด ‘ศักยภาพในการใช้ความคิดในเชิงสร้างสรรค์’ เท่านั้น

ดังนั้น แม้ ChatGPT-4 จะให้คำตอบที่ใหม่และแตกต่าง แต่มนุษย์ก็ยังสามารถให้คำตอบที่สมเหตุสมผลในโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่า ซึ่งสุดท้ายแล้วแม้ว่า AI จะทำได้ดีกว่าในแง่ความแปลกใหม่ แต่ศักยภาพของมันก็ยังคงต้องพึ่งพาการตรวจสอบความถูกต้องและเหนือสิ่งอื่นใดคือ ‘คำสั่ง’ จาก ‘มนุษย์’ อยู่ดี

อ้างอิง: arkansasresearch