เสริมแกร่งธุรกิจในยุคดิจิทัล วิธีสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเข้าถึงลูกค้าให้ตรงจุด | Techsauce

เสริมแกร่งธุรกิจในยุคดิจิทัล วิธีสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมเข้าถึงลูกค้าให้ตรงจุด

บทความโดย นายนครินทร์ เทียนประทีป ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด

2-3 ปีที่ผ่านมา ชีวิตความเป็นอยู่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก วิกฤตโควิดที่ผ่านมาทำให้การปรับตัวทางธุรกิจ และการเข้าถึงเทคโนโลยีในรูปแบบต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น 

เพื่อการรองรับสถานการณ์ให้ทันท่วงที อีกประเด็นปัญหาที่วิกฤตการโควิดทำให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจ กองทุนไอเอ็มเอฟยังคาดการณ์ว่า กลางปี 2566 มีแนวโน้มสูงที่หลายประเทศจะเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจเฉลี่ยเพียง 1-2% เตรียมรับปริบทเทคโนโลยีหลังยุคโควิด19 ที่มีการตื่นตัวและปรับเปลี่ยนตลอดเวลา

ธุรกิจกับความท้าทายหลังยุคโควิด

เกือบสามปีของการรับมือการแพร่ระบาด องค์กรหลายแห่งได้เปลี่ยนผ่านตัวเองสู่ระบบดิจิทัลอย่างรวดเร็วเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด แต่หลังจากนี้ เราจะยิ่งเห็นการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก เทคโนโลยีเช่น คลาวด์ เอไอ ไอโอที วีอาร์/เออาร์ บล็อกเชน หรือเน็ตเวิร์คที่แรงและเร็วระดับซูเปอร์ฟาสต์ (Superfast) อย่าง 5G จะมีบทบาทสำคัญมากเป็นลำดับเพื่อยกเครื่องสู่การเป็น องค์กรอัจฉริยะ (Intelligent Enterprise) โดยมี ข้อมูล เป็นทรัพยากรสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพองค์กรด้านการบริหารจัดการและกระบวนการทำงานแบบไร้รอยต่อและเป็นอัตโนมัติมากขึ้น

ขณะเดียวกัน การสร้างพื้นที่การทำงานแบบอัตโนมัติบนโลกออนไลน์ (Workplace Automaton) ทำให้คนยุคหลังโควิดต้องทำงานกับอุปกรณ์ที่ชาญฉลาดกระทั่งหุ่นยนต์อัตโนมัติมากขึ้น ปัญหาที่องค์กรจะต้องรับมือ คือ ช่องว่างด้านทักษะไอทีระหว่างบุคลากรรุ่นเก่าและใหม่ (Talent Challenge) เช่น ทักษะด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล เอไอ เป็นต้น ดังนั้น การ ส่งเสริมวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นต่อการทำงานแบบไฮบริด จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่องค์กรต้องเร่งสร้างและพัฒนาคนให้พร้อมต่อการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีที่หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนสร้างโอกาสการเรียนรู้และการเติบโตเพื่อดึงคนที่มีศักยภาพเหล่านี้ให้อยู่กับองค์กรไปนาน ๆ

ประสบการณ์ของลูกค้า จะกลายเป็นหัวข้อสำคัญที่ถูกหยิบขึ้นมาพูดถึงในปี 2566 มากขึ้น และด้วยนัยยะที่กว้างกว่าการจูงใจด้วย “ราคาสินค้า” แต่หมายถึงประสบการณ์ระหว่างทางที่ทำให้ลูกค้า “เพลิดเพลิน” กับสินค้าและบริการของเราตั้งแต่เริ่มการสืบค้น ขณะเลือกจับจ่ายสินค้าบริการไปจนจบขั้นตอนชำระเงิน 

ดังนั้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบออฟไลน์และออนไลน์ผ่านเทคโนโลยีเด่น ๆ เช่น ทเอไอ บล็อกเชน การออกแบบบริการ As-a-Service การออกแบบพอร์ทัลเพื่อสนับสนุนการให้บริการลูกค้าตลอดจนบริการหลังการขาย หรือกระทั่งการสร้างโลกความจริงเสมือนผ่านเทคโนโลยีเออาร์/วีอาร์/เอ็มอาร์ (AR/VR/MR) จะต้องเป็นไปเพื่อขจัดความยุ่งยากในการดำรงชีวิตของผู้บริโภค พร้อม ๆ ไปกับการเสริมเขี้ยวเล็บทางการตลาดให้กับทางธุรกิจ

ฟอร์บ (Forbes) ได้เคยบอกถึงเคล็ดลับการสร้างประสบการณ์ของลูกค้ายุคดิจิทัลด้วยคำสองคำ คือ การดำดิ่งสู่โลกเสมือน (Immersive) และสร้างการโต้ตอบสองทาง (Interactive) ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญในที่ชี้ถึงเทคโนโลยีสุดล้ำ เช่น เมตาเวิร์ส (Metaverse) หรือ จักรวาลนฤมิต ซึ่งถูกนำมาใช้สร้างกลยุทธ์การตลาด แถมยังเป็นการยกชั้นการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปอีกขั้น

นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของโควิดที่ผ่านมา นับรวมถึงภาวะโลกร้อน การเปลี่ยนเปลงทางภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงการรักษาสุขภาพเราและสุขภาพโลกมากขึ้น การวางหลักการ ESG (Environment Social and Governance) ที่มีหัวใจอยู่ที่ “ความยั่งยืน” ภายใต้ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล ซึ่งเติมเต็มเรื่องความถูกต้อง โปร่งใส และตรวจสอบได้ จะเป็นสิ่งที่สังคมเริ่มถามหา 

องค์กรต้องวางเป้าหมายธุรกิจให้ชัดในการใช้เทคโนโลยีไอทีมาช่วยเสริมเรื่อง ESG หรือบรรเทาผลกระทบเชิงลบที่เกิดขึ้น เช่น การทำ ESG ในระบบซัพพลาย เชน เพื่อบริหารจัดการการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนาแพลตฟอร์มด้านเอไอบนความยั่งยืน (Sustainable AI) ดังที่การ์ทเนอร์เคยทำนายไว้ว่า ในปี 2568 เอไอจะเป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานมากกว่าการทำงานโดยมนุษย์ และถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปจนถึงปี 2573 เทคโนโลยีเอไอจะกินสัดส่วนสูงถึง 3.5% ของการใช้พลังงานของโลกทั้งใบ

ความเชื่อมั่นและความปลอดภัยในการทำธุรกรรม การจัดการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลต่าง ๆ และการยืนยันความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Ownership) จะทำให้ บล็อคเชน (Blockchain) และ เว็บ 3.0 ทวีความสำคัญมากขึ้นด้วยเทคนิคการจัดการแบบกระจายศูนย์ เพื่อให้การเก็บและส่งต่อข้อมูลหรือการทำงานของโปรแกรมข้ามแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ถูกแทรกแซงโดยคนที่ไม่เกี่ยวข้อง 

ส่วน เทคโนโลยี 5G จะไม่ได้จำกัดแค่การสร้างประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ต้องรองรับไอโอทีต่าง ๆ ที่มาเชื่อมต่อได้มากขึ้นด้วย รวมถึงเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยระดับสูงสุดสำหรับการส่งต่อข้อมูลในกระบวนการทำงานที่สำคัญ เช่น การผ่าตัดผู้ป่วยด้วยหุ่นยนต์ รวมถึงการสร้างมาตรฐานของโปรโตคอลที่เป็นสากล เพื่อให้อุปกรณ์หลากโอเอสหลายแพลตฟอร์มสามารถพูดคุยกันได้

4 เป้าหมายสู่องค์กรยุคดิจิทัล     

ในปี 2566 การ์ทเนอร์ได้สรุป 4 เป้าหมาย 10 กลยุทธ์เด่นด้านเทคโนโลยี เพื่อนำพาองค์กรธุกิจสู่ความสำเร็จยุคดิจิทัลตลอด 3 ปีข้างหน้า ได้แก่ 

การเพิ่มประสิทธิผลให้กับการดำเนินธุรกิจ (Optimize) 

ผ่าน 3 เทคโนโลยีหลัก ได้แก่ 

  1. Digital Immune System การสร้างภูมิคุ้มกันด้านดิจิทัลด้วยคุณสมบัติของระบบไอทีที่สามารถย่อขยายได้ (Scalable) มีความปลอดภัยสูง (Secure) และมีเสถียรภาพ (Stable)  
  2. Applied Observability ซอฟต์แวร์ในการตรวจสอบติดตามปัญหา โดยใช้ข้อมูลร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจ การแก้ปัญหา หรือขับเคลื่อนการสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจ 
  3. AI TRISM ในการจัดการความปลอดภัย ลดความเสี่ยง เพิ่มความเชื่อมั่นเรื่องการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว รวมถึงประเด็นด้านจริยธรรมต่าง ๆ

การสร้างความยืดหยุ่น ย่อ-ขยายระบบงานได้ทันความต้องการ (Scale) 

  1. Industry Cloud Platforms แพลตฟอร์มคลาวด์เพื่ออุตสาหกรรม 
  2. Platform Engineering การพัฒนาแพลตฟอร์มด้านวิศวกรรม เช่น As-a-Service ต่าง ๆ อย่าง IaaS SaaS PaaS หรือ เว็บพอร์ทัลการพัฒนาแบบบริการตนเอง (Self-Service Development Portal) เทคโนโลยี CI/CD ในการพัฒนาแอปพลิเคชันให้ใช้งานได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นการลดระยะเวลาและภาระของนักพัฒนา และการส่งมอบซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ยูสเซอร์ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันขึ้นใช้เองได้บางส่วนจาก GUI ที่นักพัฒนาได้ออกแบบไว้ให้ 
  3. Wireless-Value Realization การตระหนักเรื่องเทคโนโลยีไร้สาย โดยเฉพาะการรองรับการทำงานของอุปกรณ์เอดจ์ (Edge Devices) ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า ในปี 2569 60% ขององค์กรจะมีการใช้เทคโนโลยีไร้สายในเรื่องต่าง ๆ อย่างน้อย 5 เทคโนโลยี

การบุกเบิกแนวทางการทำธุรกิจ เพิ่มการเข้าถึงลูกค้าและสร้างตลาดการค้าใหม่ ๆ (Pioneer) 

  1. Superapps การสร้างแอปพลิเคชันให้มีฟังก์ชันที่แตกต่างหลากหลายเพื่อรองรับการเชื่อมต่อการทำงานจากแอปพลิชันจากภายนอก ต่อยอดสู่การพัฒนาระบบนิเวศด้านไอทีสู่การให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในแอปพลิเคชันเดียว 
  2. Adaptive AI สำหรับการออกแบบอัลกอริทึมหรือกระบวนการเรียนรู้และแก้ไขปัญหาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนให้กับสภาพแวดล้อมด้านไอที หรือการตอบกลับแบบเรียลไทม์ต่อลูกค้าหรือผู้ใช้งานเฉพาะบุคคล เพื่อการปรับเปลี่ยนเป้าหมาย รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจได้มากขึ้น
  3. Metaverse การผสมผสานเทคโนโลยีที่หลากหลายในการสร้างโลกความจริงเสมือนเพื่อส่งต่อผลิตภัณฑ์และบริการที่ตื่นตาและโดนใจลูกค้าได้ยิ่งกว่าเดิม 

นวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจและโลก

 Sustainability Technology เพื่อให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีหรืบริการไอทีโดยที่ตัวมันเองไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงเทคโนโลยีเบื้องหลังกระบวนการทำธุรกิจที่ควรนำไปสู่การพัฒนาโซลูชันและบริการด้านไอที ซึ่งลดการใช้พลังงาน หรือเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียนมากขึ้นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม การปรับปรุงวัฒนธรรมการทำงาน การยอมรับความแตกต่างหลากหลายและเพิ่มความเท่าเทียมระหว่างพนักงานในมิติเชิงสังคมและบรรษัทภิบาลไปพร้อมกัน

ทั้งหมดนี้ เพื่อให้ทุกองค์กรสามารถพัฒนาสู่ความเป็นองค์กรอัจฉริยะที่ถึงพร้อมด้วยระบบนิเวศด้านไอทีในการรับมือทุกสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจและทุกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างยั่งยืน  

บทความโดย นายนครินทร์ เทียนประทีป ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ยิบอินซอย จำกัด

Sign in to read unlimited free articles

No comment

RELATED ARTICLE

Responsive image

AirAsia MOVE ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ สู่ผู้นำแพลตฟอร์มเดินทาง OTA แบบคุ้มครบจบในแอปเดียว พร้อมแพ็กเกจบินทั่วอาเซียนแบบไม่จำกัด

airasia Superapp ประกาศรีแบรนด์ดิ้งใหม่ในชื่อ AirAsia MOVE พร้อมปรับโฉมแอปพลิเคชันใหม่ และเสริมกลยุทธ์ด้านธุรกิจเพื่อผลักดันให้ AirAsia Move เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์ม OTA (ตัวแทนด้านก...

Responsive image

Indorama Ventures ออกหุ้นกู้ 1 หมื่นล้าน ตอกย้ำผู้นำธุรกิจยั่งยืน

Indorama Ventures ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ประกาศความสำเร็จในการระดมทุน 1 หมื่นล้านบาท ผ่านการออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนร...

Responsive image

Jitta ก้าวสู่ปีที่ 12 เดินหน้าแก้วิกฤตการเงิน หนุนคนไทยออมและลงทุนอัตโนมัติ

Jitta เข้าสู่ปีที่ 12 เติบโตอย่างแข็งแกร่งบนเป้าหมายที่จะสร้างนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนที่ง่ายและสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่า...